วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2558

NC Chapter Seventeen {MidoMuraKuroAka}




NC Chapter Seventeen
Pairing  ;  Midorima Shintaro , Murasakibara Atsushi , Akashi Seijuro  x  Kuroko Tetsuya



เฮือก !!!
ผมสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เมื่อเสื้อผ้าและกางเกงของผมหายไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มุราซากิบาระคุงก้มลงกดจูบบริเวณซอกขาของผมจนเกิดรอยแดงหลายๆจุด ริมฝีปากของผมยังถูกอาคาชิคุงกดจูบอยู่ ถึงได้พูดอะไรหรือร้องอะไรออกมาไม่ได้ ส่วนด้านบนนั้น มิโดริมะคุงกำลังกดจูบไปทั่วบริเวณหน้าอกและหน้าท้องแบนราบของผม ผมสะดุ้งเมื่อเขาแหย่ลิ้นลงในสะดือของผม ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะไล่ขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงยอดอกทั้งสองข้างของผม
อื้อ !” ผมเผลอร้องออกมาในลำคอ เมื่อคนผมเขียวดูดเม้มขบกัดยอดอกทั้งสองข้างของผมสลับกันไปมา ใบหน้าของผมเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเสียวซ่าน มันเป็นสิ่งน่ารังเกียจที่ทำให้ผมนึกรังเกียจตัวเองและสมเพชตัวเองอยู่ทุกวันนี้
อ๊า …” อาคาชิคุงปล่อยริมฝีปากของผมให้เป็นอิสระ และมันเป็นจังหวะเดียวกันกับที่มุราซากิบาระคุงครอบครองแก่นกายของผมด้วยริมฝีปากของเขาพอดี ลิ้นอุ่นร้อนของเขากำลังไล้เลียแก่นกายที่เริ่มแข็งชัน น้ำตาของผมไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผมรู้ตัวว่าผมเผลอตอบสนองกับสัมผัสเล่านี้ ทั้งมิโดริมะคุงที่กำลังดูดดึงยอดอกของผมอยู่ และมุราซากิบาระคุงที่กำลังไล้เลียแก่นกายของผมอยู่
อะ … อาคาชิคุง ?!” ผมเบิกตากว้าง เมื่อคนผมแดงปลดเข็มขัดและกางเกงลง สิ่งที่อยู่ตรงหน้าผมก็คือแก่นกายที่เริ่มขยายใหญ่ของเขา
นี่มันหมายความว่า 
จัดการสิ เท็ตสึยะ มันกำลังต้องการนายนะ รู้มั้ย ?” มือหนาของเขายกขึ้นลูบไล้ใบหน้าของผมไปมาเบาๆ แต่พอไม่เห็นผมขยับเขยื้อนตัว เขาก็ออกแรงกระชากเส้นผมของผมให้เข้าไปใกล้ๆกับแก่นกายของเขา เล็บของเขากำลังจิกอยู่ที่หัวของผม
เจ็บครับ อาคาชิคุง …”
ทำสิ เท็ตสึยะ !!!”
แต่ว่าผม …”
ผมไม่อยากจะรุนแรงอะไรกับนายมากนักหรอกนะ เท็ตสึยะ” เขาส่งยิ้มน่าขนลุกให้กับผม ผมเม้มริมฝีปากแน่นอย่างขมขื่น ก่อนจะตัดสินใจทำในสิ่งที่น่ารังเกียจและน่าสมเพชสำหรับตัวผมเอง
ผมก้มลงใช้ลิ้นแตะปลายแก่นกายที่เริ่มมีน้ำสีขาวขุ่นไหลออกมาเล็กน้อย ตาสีฟ้าปิดสนิท ก่อนที่ผมจะฝืนใจใช้ริมฝีปากครอบครองแก่นกายของคนผมแดง มือหนาของเขาจับอยู่ที่ศีรษะของผมและลูบไปมา ผมหลับตาแน่นเพราะไม่อยากจะลืมตาขึ้นมามองเห็นหรือมารับรู้อะไรที่น่ารังเกียจเช่นนี้ แต่เพราะการที่ผมหลับตาแน่น ทำให้ผมมองไม่เห็นถึงดวงตาคมสองสีที่มองไปยังอดีตเพื่อนร่วมทีมผมม่วงที่พยักหน้ารับหนึ่งที ก่อนจะทำในสิ่งที่อดีตกัปตันของตนเองสั่ง แค่มองตาก็สามารถมองออกว่าอีกฝ่ายต้องการให้ทำอะไร เพราะสนิทกันถึงได้รู้ในสิ่งที่คนๆนั้นต้องการ
ฮื่อ !!!” ผมกรีดร้อง ทั้งๆที่ปากยังคงครอบครองแก่นกายของอาคาชิคุงอยู่ ผมไม่สามารถขยับไปไหนได้ เพราะมือหนากดศีรษะของผมเอาไว้แน่น แต่สิ่งที่ผมรับรู้คือนิ้วเรียวยาวของใครบางคนกำลังบุกรุกสอดแทรกเข้ามาในช่องทางรักของผมอยู่
อา … ดี … สอนไปครั้งเดียวก็เก่งขึ้นเยอะเลยนี่ … เท็ตสึยะ” ผมชะงักไปกับคำพูดของเขา แต่คำพูดต่อมาก็ทำให้หัวใจของผมเจ็บแปลบขึ้นมาแทบจะทันที
ไม่สิ ผมลืมไปว่ามีคนอื่นสอนนายไปเยอะแล้วนี่
อ๊ะ !” ผมร้องอุทานออกมา เมื่ออาคาชิคุงดึงศีรษะของผมออก และมุราซากิบาระคุงก็ดึงนิ้วของเขาออกเช่นเดียวกัน ผมเห็นอาคาชิคุงหันไปมองสบตากับมิโดริมะคุงและมุราซากิบาระคุง ก่อนที่ทั้งสองคนจะพยักหน้า พวกเขาจับผมให้อยู่ในท่าหมอบคลาน ก่อนที่มุราซากิบาระคุงจะ 
อ๊า !!!” ผมกรีดร้องลั่นห้อง เมื่อคนผมม่วงกระแทกแก่นกายเข้ามาอย่างแรงและรวดเดียวมิดด้าม แม้จะเบิกทางด้วยนิ้วไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่มันก็ยังไม่เพียงพอกับขนาดของแก่นกายของเขาอยู่ดี แต่ผมไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้น 
อ๊ะ … มุราซากิ … บาระคุง … ช้าๆ  … ช้าหน่อยครับ !” ผมพยายามบอกให้คนตัวสูงลดความเร็วลงหน่อย แต่เหมือนเขาจะไม่ฟังอะไรอีกต่อไปแล้ว
อา … ทำไมแน่นจังเลย … คุโรจิน ~”
อะ … อ๊า …”
อ่า … อย่าทำให้ฉันหลงมากไปกว่านี้ซี่ คุโรจิน” ผมกำหมอนแน่นเพื่อลดความเสียวซ่านจากแรงกระแทกของมุราซากิบาระคุง
เฮือก อ๊า มิ … มิโดริมะคุง …” ผมร้องครางลั่นอีกครั้ง เมื่อมิโดริมะคุงใช้นิ้วเรียวยาวบีบขยี้ยอดอกของผมอย่างแรงจนมันขึ้นสีแดงก่ำ หันไปมองอาคาชิคุงก็พบว่าเขากำลังค้นอะไรในลิ้นชักอยู่ แต่พอได้เห็นเท่านั้นแหละ ผมถึงกับหน้าซีดเผือดทันที
เทียนกับไฟแช็ก ?เขาเอาออกมาทำไมกัน ?
คิดจะทำอะไรครับ … อาคาชิคุง ?
ถ้ามีเซ็กส์แบบธรรมดามันก็ดูน่าเบื่อ ว่างั้นมั้ย ? เท็ตสึยะ
จะทำอะไร …” ผมคิดจะถอยหนี แต่เพราะด้านหลังยังเชื่อมติดกับคนผมม่วงอยู่ ผมถึงได้ขยับตัวหนีไม่ได้ เพราะมุราซากิบาระคุงจับเอวผมล็อคเอาไว้แน่นเลย และยังคงส่งแรงกระแทกติดต่อกันเข้ามาเรื่อยๆกระทบจุดเร้า จนผมต้องบิดตัวด้วยความเสียวซ่าน แต่ตาก็ยังคงจับจ้องสิ่งของอันตรายที่อยู่ในมือหนาของอาคาชิคุงอยู่
ไม่ต้องกลัวหรอก เท็ตสึยะ ผมจะทำให้นายมีความสุขสุดๆไปเลยล่ะ :)” รอยยิ้มของเขามันไม่น่าไว้ใจ และผมไม่เคยไว้ใจอะไรในตัวเขาเลยสักครั้งเหมือนกัน !
ไม่ … อย่านะครับ …” ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เมื่อเห็นอาคาชิคุงจุดไฟที่เทียนเล่มนั้น ส่วนมุราซากิบาระคุงที่เห็นแบบนั้นก็เร่งกระแทกกายใส่รัวเร็ว จนผมแทบจะหายใจหายคอไม่ทัน ก่อนจะรู้สึกโล่งมาก เมื่อทั้งผมและเขาได้รับการปลดปล่อย ผมหันกลับไปมองก็เห็นคนผมม่วงถอนกายออกไปและมาช่วยมิโดริมะคุงจับผมให้นอนหงาย ผมก็พยายามจะดิ้นหนี เมื่อเห็นคนผมแดงผู้สั่งการทั้งสองคนเอาเทียนที่ติดไฟแล้วมาใกล้ๆตัวผม
นี่มันเกินไปแล้วนะ !!! เขาบ้าไปแล้วเหรอ ?!
ไม่ต้องกลัว มันจะไม่เป็นอะไร เชื่อผมสิ
ใครเชื่อคุณก็เรียกเขาว่าควายเถอะครับ !!!
หยุดนะครับ !”
อย่าดิ้นไปเลยน่าคุโรโกะ ฉันเหนื่อยที่จะต้องมาจับตัวนายไว้แบบนี้แล้วนะ !!!” มิโดริมะคุงตะคอกใส่ผมอย่างเหลืออด แต่ผมก็อยากจะบอกเขาว่าถ้าเหนื่อยก็ไม่ต้องจับสิครับ เหมือนกันนั่นแหละ
จับให้แน่นๆล่ะ ชินทาโร่ อัตสึชิ
รู้แล้วล่ะน่า … ฉันได้แรงมาจากการได้ กิน’ คุโรจินเมื่อกี้แล้วไง ~”
ชิ !” ผมได้ยินมิโดริมะคุงสบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ ตากลมโตของผมเผลอมองสบตาคมใต้กรอบแว่นของเขา ก่อนที่คนผมเขียวจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น แต่แววตาเมื่อกี้มันทำให้ผมแอบคิดว่าเขาไม่ได้อยากจะทำแบบนี้รึเปล่า ? แต่ไม่หรอก ผมคงคิดไปเองนั่นแหละ เขาก็เหมือนๆกันกับทุกคน ไม่มีวันมองผมด้วยแววตาแบบนั้น
แววตาที่ทั้งอ่อนโยน อบอุ่น และห่วงใย 
มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ผมจะได้รับสายตาแบบนั้นจากเขา !
ผมหน้าซีดเผือด เมื่อเห็นคนผมแดงแสยะยิ้มใส่และเอาเทียนเข้ามาใกล้ๆตัวผม ผมมองเทียนติดไฟที่จ่ออยู่ที่หน้าท้องของตนเอง ก่อนจะสะดุ้งสุดตัว เมื่อน้ำตาเทียนหยดลงบนร่างของผม
อ๊า ร้อน …”
หืม … เสียงใช้ได้เลยนะ เท็ตสึยะ :)
หยุดเถอะครับ … ผมขอร้อง …” ผมขอร้องเขาทั้งน้ำตา ไม่เคยเสียศักดิ์ศรีมาขอร้องใครแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต แต่ตั้งแต่เจอกับพวกเขา ผมก็ได้ทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองไปจนหมดสิ้น
มันคือความผิดพลาดของผมเองที่มาเจอกับพวกเขาทุกคน 
อีกสักหน่อยแล้วกันนะ ใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตาของนายเนี่ย … สุดยอดจริงๆ” อาคาชิคุงพูดด้วยรอยยิ้มมุมปาก ก่อนจะเลื่อนเชิงเทียนมาที่หว่างขาของผม น้ำตาเทียนค่อยๆหยดลงมาบนแก่นกายที่เหมือนจะได้พักสักแปบ เพราะพวกเขาไม่ได้เร้าอารมณ์หรือปลุกอารมณ์ของผมขึ้นมาใหม่อีก หลังจากที่อารมณ์ดับลงได้เพราะได้รับการปลดปล่อยจากมุราซากิบาระคุง
ฮึก … ร้อนครับ …”
ชินทาโร่ ตานายแล้ว ไปสิ
เข้าใจแล้ว” พูดจบ มิโดริมะคุงก็ปล่อยที่กับมุราซากิบาระคุง ส่วนอาคาชิคุงก็ดับไฟที่เชิงเทียน ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจ แต่ก็อุ่นใจได้ไม่นานนักหรอก
สวบ !
อ๊า !!!” ผมกรีดร้องออกมาดังลั่น เมื่อคนผมเขียวกระแทกกายเข้ามาแบบไม่บอกไม่กล่าว โชคยังดีที่มีน้ำสีขาวขุ่นของมุราซากิบาระคุงช่วยหล่อลื่นให้ ทำให้เขาเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
อะ … ช้า … ช้าๆครับ มิโดริมะคุง !” ผมพยายามบอกให้เขากระแทกช้าๆหน่อย มือก็ขยำผ้าปูที่นอนแน่น ทั้งจิกทั้งทึ้งจนกลัวว่ามันจะขาดติดมือมา คนผมเขียวขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าผมกำผ้าปูที่นอนแน่น เขาเอื้อมมือมาจับมือผมออกและนำไปคล้องไว้ที่ลำคอแกร่งของเขา ผมมองสบตาเขาทั้งๆที่ใบหน้าแดงระเรื่อและอยากจะหลับตา ไม่อยากมองเห็นภาพอะไรแบบนี้ แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมต้องมองสบตาเขาที่จ้องมองมาที่ผม แววตาแบบนั้นอีกแล้วเหรอ ?
แววตาเป็นห่วงนั่นมันอะไรกันครับ ? หรือคุณสมเพชผมเหรอ ? มิโดริมะคุง 
ถ้างั้นก็เก็บความสมเพชของคุณไปและทำตามที่ใจคุณอยากทำเถอะครับ !
ร่างกายของผม … คุณอยากได้มันมาตลอดไม่ใช่รึยังไงกัน ?
ได้สมใจอยากคุณแล้วนะครับ มิโดริมะคุง 
คุโรโกะ …” เหมือนเขาอยากจะพูดอะไร แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา นอกจากส่งแรงกระแทกเข้ามามากขึ้น เมื่อพบว่าใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ส่วนผมก็กอดคอเขาเอาไว้แน่น เพราะว่าตัวผมเองก็ใกล้จะถึงปลายทางแล้วเช่นเดียวกัน
เร็ว … เร็วอีก … ใกล้แล้วครับ …” เป็นคำพูดที่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะพูดมันออกมาได้ น่ารังเกียจ น่าสมเพชจริงๆเลยนะ ตัวผมเนี่ย
ทั้งๆที่บอกว่าไม่ชอบแท้ๆ แต่กลับเรียกร้องแบบนี้ มันน่ารังเกียจจริงๆ 
ไปพร้อมกันนะ …” ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า แต่เสียงทุ้มที่กระซิบข้างหูนี่มัน 
ทำไมฟังดูอ่อนโยนจังนะ 
อ๊า !!!” ผมกรีดร้องสุดเสียง เมื่อพบว่าตัวเองมาถึงปลายทางแล้ว น้ำสีขาวขุ่นถูกปล่อยออกมาเปรอะเปื้อนผ้าปูเตียง มิโดริมะคุงที่สำเร็จความใคร่แล้วถอนกายออกจากร่างของผม มือหนาของเขาเอื้อมมาหมายจะแตะต้องตัวผม แต่อยู่ดีๆเขาก็หยุดมือไปและก้าวขาลงจากเตียงเพื่อไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย ตาคมภายใต้กรอบแว่นหันไปมองอาคาชิคุง ไม่แม้แต่จะมองสบตากับผม
ทำไมถึงเจ็บขนาดนี้นะ ทำไมกัน 
แค่คิดว่าที่มิโดริมะคุงทำไปก็เพื่อสนองความต้องการ หัวใจมันก็บีบรัดเข้าหากันจนแทบจะหายใจไม่ออกแล้ว มันเป็นความเจ็บปวด เป็นความทรมานที่ยากเกินกว่าจะอธิบายจริงๆ 
ฉันกลับก่อนนะ อาคาชิ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกคนผมแดงที่นั่งมองอยู่นานสองนาน มุมปากหนากระตุกยิ้มและพยักหน้ารับคำ
ไปเถอะ ชินทาโร่” พูดจบ มิโดริมะคุงก็เดินออกไป แต่ก่อนที่เขาจะปิดประตู ผมเห็นแววตาคมที่เหลือบมองมาทางผม ใบหน้าด้านข้างของเขา ถึงจะแค่แวบเดียว แต่ผมกลับรู้สึกได้ เป็นความรู้สึกที่ไม่ควรจะรู้สึกเลยด้วยซ้ำไป เพราะเขาคงไม่มานั่งคิดถึงจิตใจของผม ความรู้สึกของผมหรอก แต่ใบหน้าเมื่อครู่มันทำให้ผมกำลังจะเปลี่ยนความคิดที่มีต่อเขาไป
ผมยังมีความหวังใช่มั้ยครับ ? คุณยังเป็นคุณคนเดิม ยังเป็นคุณที่แม้จะปากแข็งแต่ก็ยังคอยเป็นห่วงเป็นใยผมอยู่เสมอ นั่นคือคุณที่ผมเชื่อใจยังไงล่ะครับ มิโดริมะคุง 
นายจะกลับเลยก็ได้นะ อัตสึชิ
เอ๋ แล้วจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าใครชนะอ่ะ
งั้นนายก็อยู่ตัดสินผลแทนชินทาโร่แล้วกันนะ” พูดจบ คนผมม่วงก็พยักหน้ารับ ก่อนจะนั่งกินขนมต่อ อาคาชิคุงจึงหันมาทางผม และเอื้อมมาดึงแขนผม จนผมเซไปนั่งทับบนตักของเขาที่มีอะไรโป่งพองออกมา รู้สึกได้เลยว่าเขาคงใช้ความอดทนมากกับการนั่งมองคนอื่น แต่ไม่มีสิทธิ์ทำอะไร
ก็มันเป็น เกมส์’ ที่เขาสร้างขึ้นมาเองนี่
ร่างกายของผมโดนย่ำยี ความรู้สึกของผมเองก็มีค่าแค่เกมส์ๆหนึ่งของเขาเท่านั้น
เรามาเริ่มบทรักของผมกับนายกันเถอะ เท็ตสึยะ :)” พูดจบ อาคาชิคุงก็ยกร่างของผมขึ้น เขาถอดกางเกงของตนเองออก ก่อนจะกดร่างของผมทับลงบนแก่นกายที่ขยายใหญ่ของเขา
อ๊า !!!” เป็นอีกครั้งที่ผมต้องกรีดร้องดังลั่นห้อง เมื่ออาคาชิคุงกดร่างของผมลงอย่างแรง เขาไม่รอให้ผมปรับตัวกับขนาดของแก่นกายของเขา สะโพกหนาเด้งสวนขึ้นมาอย่างแรง จนผมต้องจิกเล็บลงบนไหล่หนาด้วยความเสียวซ่าน ใบหน้าของผมสะบัดเชิดขึ้นสูง ปากก็ร้องครวญครางส่งเสียงน่ารังเกียจไม่หยุดหย่อน เมื่อนิ้วเรียวยาวของเขาบีบขยี้ยอดอกของผมเพิ่มความเสียวซ่าน มือหนาเลื่อนต่ำลงไปบีบเค้นต้นขาของผมอย่างแรงจนเกิดรอยแดง ก่อนจะฟาดลงที่บั้นท้ายของผมหลายๆที
โอ้ย เจ็บครับ …” ผมน้ำตาเล็ดด้วยความเจ็บปวดที่โดนมือหนาตีบั้นท้ายหลายๆที
เหมือนนายจะชอบไม่ใช่เหรอ ? เท็ตสึยะ :)” ใครบอกคุณกันครับ !!!
อะ … อา … อ๊า …” ผมร้องคราง เมื่อมือหนากดสะโพกของผมขึ้นลงไม่หยุด แถมเขายังเด้งสะโพกสวนขึ้นมารัวเร็ว จนผมต้องจิกเล็บระบายความเสียวซ่าน แต่อารมณ์ผมก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อมือหนาหยุดมือที่จับสะโพกผมกดขึ้นลง
อะ … อาคาชิคุง …” ผมเผลอบิดเร้าไปมาไม่รู้ตัว เมื่อแก่นกายไม่ได้รับการปลดปล่อย แถมมือหนาของอาคาชิคุงยังเลื่อนมาบีบแก่นกายของผมเล่นอีกด้วย
ผมเหนื่อยแล้วล่ะ
เอ๊ะ ?
ถ้าอยาก  ก็ทำเองเลยสิ เท็ตสึยะ
!!!!!
ผมเบิกตากว้าง เม้มริมฝีปากแน่น เมื่อเสียงทุ้มเน้นคำว่า อยาก’ เป็นการบ่งบอกว่าผมกำลังรู้สึกดีและมีอารมณ์ร่วมไปกับบทรักของเขา ผมหลับตาลงช้าๆ ก่อนจะกดกายขึ้นลงรับแก่นกายของอาคาชิคุงเข้ามาภายในเพื่อปลดปล่อยความต้องการของตนเอง น้ำตาที่แห้งเหือดไปแล้วค่อยๆไหลรินลงมาช้าๆอย่างเจ็บปวดและทรมาน
คุณนี่มันน่าสมเพชจริงๆเลยนะครับ … คุโรโกะ เท็ตสึยะ
อา … แบบนั้นแหละ … คนดี …” มือหนายกขึ้นลูบเส้นผมสีฟ้าของผมไปมาเบาๆ ผมกัดริมฝีปากจนเลือดไหลซิบๆออกมา แต่ความเจ็บปวดนี้มันยังเทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดภายในหัวใจของผม เมื่อไหร่ที่ผมจะหลุดพ้นจากขุมนรกพวกนี้สักที ผมทนได้ และทนมาโดยตลอด แต่ไม่รู้ว่าผมจะทนต่อไปได้อีกนานแค่ไหน
หรือมันถึงเวลาแล้ว … ที่ผมควรจะหนีหายไปจากพวกเขาทุกคนสักที ?
อ๊า !!!” ผมครางดังลั่น เมื่ออาคาชิคุงที่เหมือนจะทนไม่ไหวดันร่างผมให้นอนราบกับเตียง ก่อนที่เขาจะยกขาทั้งสองข้างของผมขึ้นพาดบ่าและส่งแรงกระแทกรัวเร็ว จนผมตั้งตัวไม่ทัน มือของผมขยำผ้าปูที่นอนแน่น เมื่อแก่นกายของเขาเข้าไปลึกขึ้นทุกทีๆ กระทบจุดเร้าจนผมต้องบิดกายด้วยความเสียวซ่าน
อะ .. อ๊า … อ๊า … อาคาชิคุง …”
เท็ตสึยะ” เสียงทุ้มเรียกชื่อผม ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะก้มลงกดจูบบนริมฝีปากของผม
อะ … อ๊า …”
อา … ใกล้แล้ว … เท็ตสึยะ …”
อ๊า !!!” ผมกรีดร้องเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่น้ำสีขาวขุ่นจะพุ่งทะลักออกมา ผมหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน รู้สึกได้ว่าอาคาชิคุงถอนหายออกไปแล้ว เปลือกตาของผมกำลังจะปิดลงช้าๆด้วยความเหน็ดเหนื่อย แต่ก่อนที่ผมจะหมดสติไปนั้น ผมได้ยินเสียงพวกเขาสองคนพูดคุยกัน





อ่านแล้วอย่าลืมกลับไปเม้นด้วยนะคะ <3
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1366159&chapter=19

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น